วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กระทิงเฮลั่น!ซัดชัยต่อเวลา คว่ำอัศวินส้มชูถ้วยเวิลด์คัพ



กระทิงเฮลั่น!ซัดชัยต่อเวลา คว่ำอัศวินส้มชูถ้วยเวิลด์คัพ

เวิลด์ คัพ ฉบับแอฟริกาใต้ ได้แชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ "กระทิงดุ" สเปน คว่ำ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 จากประตูชัยของ อิเนียสต้า ในน.116 คว้าแชมป์ เวิลด์ คัพ ไปครองเป็นสมัยแรก

ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 53 ที่สนาม ซอคเก้อร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ในเมือง โจฮันเนสเบิร์ก ก้าวเข้าสู่วันสุดท้ายในนัดชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง "อัศวินสีส้ม" ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่โค่นทัพ "จอมโหด" อุรุกวัย ในรอบรองฯ มา 3-2 โคจรมาพบกับ "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน ที่เฉือนชัยต่อ "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมัน มาหวุดหวิด 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ

เริ่มเกม ทีมชาติฮอลแลนด์ มาในชุดสีส้มล้วน เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย ส่วนทีมชาติสเปน มาในชุดสีกรมท่าล้วน เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อน เมื่อได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา ในนาทีที่ 5 ชาบี เอร์นานเดซ เปิดเข้าไปลุ้นหน้าปากประตู เซร์คิโอ รามอส ชิงโหม่งได้ก่อน แต่โดน มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก ปัดออกไปได้ทัน

น.12 รูปเกมยังเป็นฝั่งสเปน ที่ทำเกมได้ดีกว่าทัพอัศวินสีส้ม โอกาส 2 ครั้งติดๆ จากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส ลุยเข้าเขตโทษได้ยิงระยะ 6 หลา โดนกองหลังฮอลแลนด์เคลียร์ทิ้ง ต่อเนื่องด้วยเตะมุม ชาบี เอร์นานเดซ โยนข้ามไปถิงเสาสอง ดาบิด บีย่า ง้างเท้ารอฮาล์ฟวอลเล่ย์เหน่งๆ บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

น.18 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของนัดชิง เวิล์คัพ 2010 ที่รับใบเหลืองไปเป็นของกำนัลในจังหวะที่ไปเสียบใส่ข้อเท้าของ โจน กัปเดบิล่า ในน.15 ต่อด้วย การ์เลส ปูโยล ในอีก 2 นาทีให้หลัง เสียบ ร็อบเบน เสียฟรีคิกระยะอันตราย เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ซัดเปรี้ยงเดียวเข้าซอง อิเกร์ กาซิยาส

น.28 เกมของทั้งสองทีมค่อนข้างจะทันกัน มีการเข้าปะทะหนักๆ กันหลายจังหวะ ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ แจกใบเหลืองไปแล้วถึง 5 ใบ ในช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประกอบด้วยของ สเปน 2 ใบ และ ฮอลแลนด์ 3 ใบ ไนเจล เด ยองก์ เป็นผู้เล่นรายล่าสุดที่โดนคาดโทษในจังหวะที่เปิดปุ่มสตั๊ดใส่ ชาบี อลอนโซ่

น.37 ฮอลแลนด์ บุกทำทำเกมขึ้นมาจนได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อาร์เยน ร็อบเบน เล่นลูกสูตร เปิดย้อนมาที่หน้าเขตโทษ มาร์ค ฟาน บอมเมล วิ่งเข้ามาแปโดนไม่ดีบอลปลิ้นออกหน้าปากประตูไป

น.38 ตอบโต้ไปมาสำหรับเกมรุกทั้งสองทีม สเปน ฉวยโอกาสโต้กลับเร็ว ชาบี เอร์นานเดซ จ่ายบอลให้ เปโดร โรดริเกซ กระชากเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะได้โอกาสยิงด้วยซ้ายระยะ 20 หลา บอลออกข้างไป

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฮอลแลนด์ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน ได้บอลจากฝั่งขวาล็อกเข้าเหลี่ยมซ้าย ยิงไปเกือบเสียบมุม อิเกร์ กาซิยาส ปัดด้วยปลายมือทิ้งไป จบครึ่งแรก ยังเสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เริ่มเสียงนกหวีดทั้งสองทีมก็ผักกันรุก-รับเช่นเคย นาทีที่ 48 เป็น สเปน ที่ได้โอกาสลุ้นเข้าทำก่อน จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ชาบี เอร์นานเดซ เปิดมายังจุดนัดพบให้ การ์เลส ปูโยล โถมมาโหม่งเช็ค บอลลอยไปทางเสาสอง โจน กัปเดบิล่า ยืนโล่งอยู่คนเดียว แต่ตวัดยิงไม่โดน บอลผ่างหน้าปากประตูออกไป

น.53 ทัพ "อัศวินสีส้ม" ไม่น้อยหน้า เรียกได้ว่าไม่ยอมให้ สเปน รุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวจี๊ดของทีม ได้บอลทางฝั่งขวา กระชากเข้ากลางตามสเต็ป ก่อนที่จะเข้าเหลี่ยมซ้ายกดเข้าข้อ บอลเข้ามือ อิเกร์ กาซิยาส

น.60 บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือสเปน เริ่มแก้เกมเป็นคนแรก ถอด เปโดร โรดริเกซ ที่ไม่ค่อยมีบทบาทในแนวรุกออก เลือกส่ง เฆซุส นาบาส ปีกสายพันธุ์ เซบีย่า ลงสนามไปแทน

น.62 ฮอลแลนด์ เริ่มสร้างปัญหาให้กองทัพ "กระทิงดุ" ได้เป็นระยะๆ แนวรับเริ่มทำงานหลักขึ้น และเกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ตวัดบอลเร็วให้ อาร์เยน ร็อบเบน หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อิเกร์ กาซิยาส แต่ยิงไปติดขานายทวาร เรอัล มาดริด อย่างน่าเสียดาย

น.70 เกมสนุกสนาน คู่คี่สูสีกันตามลำดับ เฆซุส นาบาส ตัวสำรองของ สเปน เริ่มคลายพิษสงออกมาให้เห็น ทำเอา โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ แทบหัวหมุน เมื่อได้จังหวะเปิดจากฝั่งขวาเข้ามาหน้าประตู จอห์นนี่ ไฮติงก้า สกัดบอลพลาด บอลกระฉอกมาเข้าทาง ดาบิด บีย่า ได้ยิงจ่อๆ แต่ ไฮติงก้า ลุกขึ้นมาบล็อกได้ทันเวลา แล้วฮอลแลนด์ ส่ง เอลเยโร่ เอเลีย ลงมาแทน เดิร์ค เค้าท์

น.77 สเปน พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ โยนลูกเตะมุมมาจากทางฝั่งซ้าย เข้ามากลางประตูให้ เซร์คิโอ รามอส ขึ้นโขกคนเดียวไร้ตัวประกบ แต่กองหลังจากสโมสร เรอัล มาดริด โหม่งข้ามคานไปอย่างน่าเหลือเชื่อ

น.82 ทั้งสองทีมมีจังหวะการเข้าทำพอๆ กัน แต่จังหวะโต้กลับเร็วของ ฮอลแลนด์ เกือบทำให้กองเชียร์ "กระทิงดุ" น้ำตาร่วง เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โหม่งเช็ดต่อให้ อาร์เยน ร็อบเบน ควบแซง 2 เซนเตอร์ฮาล์ฟ สเปน แต่จังหวะสุดท้ายโดนเหนี่ยวเสียหลักไปนิดนึง จึงพลาดโอกาสยิง แล้วทาง ร็อบเบน พยายามประท้วงผู้ตัดสินว่าโดนดึง แต่กลับได้รับใบเหลืองตอบแทน

จบ 90 นาที ทั้ง สเปน และ ฮอลแลนด์ ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องไปลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ ฮอลแลนด์ ต้องมาเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นในสนาม เมื่อ จอห์นนี่ ไฮติงก้า ได้รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงโดนไล่ออกในนาทีที่ 110

น.116 และแล้ว สเปน ก็มาได้ประตูชัย จากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส จ่ายถวายพานทองให้กับ อันเดรส อิเนียสต้า หลุดเข้าเขตโทษ แล้วยิงผ่านมือ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก เข้าไปให้ทีมนำ 1-0

หมดเวลา 120 นาที สเปน เฉือนเอาชนะ ฮอลแลนด์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 คว้าถ้วยแชมป์ ฟุตบอลโลกไปครองเป็นสมัยแรก

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติฮอลแลนด์
มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก - เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, จอห์นนี่ ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ (กัปตันทีม) (เอ็ดสัน บราฟไฮม์ 105) - มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เด ยองก์ (ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท 99) - อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เดิร์ค เค้าท์ (เอลเยโร่ เอเลีย 71) - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรองไม่ได้ใช้
มิเชล วอร์ม, ซานเดอร์ บอชเคอร์ - คาลิด บูลาห์รูซ, อังเดร ออยเยอร์, เดมี่ เดอ ซูว์, สไตจ์น สคาร์ส, อิบราฮิม อเฟลเลย์, ไรอัน บาเบิล, คลาส แยน ฮุนเตลาร์

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติสเปน
อิ เกร์ กาซิยาส - เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล, โจน กัปเดบิล่า - เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ (เชส ฟาเบรกาส 87) - อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, เปโดร โรดริเกซ (เฆซุส นาบาส 60) - ดาบิด บีย่า (เฟร์นานโด ตอร์เรส 106)
สำรอง ไม่ได้ใช้
บิคตอร์ บัลเดส, โฆเซ่ เรน่า - การ์ลอส มาร์เชน่า, ราอูล อัลบิโอล, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ฆาเบียร์ มาร์ติเนซ, ฆวน มานูเอล มาต้า, ดาบิด ซิลบา, เฟร์นานโด ยอเรนเต้

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)